
วิธีเอาชนะความโกรธ
สรุป
ทุกคนล้วนเผชิญกับความโกรธ แต่ถ้าเรายึดติดกับความโกรธ มันสามารถทำลายเราได้ แผ่นพับนี้จะเล่าเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ชีวิตเปลี่ยนไปหลังจากได้เรียนรู้ว่าพระเยซูทรงให้อภัยผู้อื่น แม้แต่คนที่สังหารพระองค์ หากเราปฏิบัติตามพระเยซู พระองค์จะทรงเปลี่ยนแปลงเราและทำให้เราวางตัวได้เหมือนพระองค์มากขึ้น พระองค์จะทรงขจัดความโกรธและความขมขื่นของเราเพื่อให้ชีวิตของเราเป็นเกียรติต่อพระเจ้า
ประเภท
จุลสาร
สำนักพิมพ์
Sharing Hope Publication
วางจำหน่ายใน
12 ภาษา
หน้า
6
แม่ยายของดารายืนกรานว่า “เธอจะคลอดลูกในหมู่บ้านของเราได้ปลอดภัยอย่างที่เราเคยทำกันมา” “เราไม่จำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาลราคาแพง”
ดาราเป็นกังวล ภรรยาของเขาสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงและเขาต้องการให้เธออยู่ใกล้มือหมอเก่ง ๆ “เถียงกับแม่ยายไปก็ไม่มีประโยชน์” เขาพึมพำ
เมื่อภรรยาของเขาปวดท้องคลอด ดาราต้องรอด้านนอกกระท่อม เสียงร้องของเธอรุนแรงขึ้นก่อนที่จะเงียบลง ในที่สุด แม่ยายก็เดินออกมา มองดูหน้าแม่ยายเพียงแวบเดียว เขาก็รู้เลยว่าภรรยาและลูกที่รักของเขาได้จากไปแล้ว จากไปพร้อมกับความฝันและความสุขทั้งหมดของเขา
ความเย็นชาค่อยๆ พลุ่งพล่านเป็นความโกรธเกรี้ยว ดาราร้องออกมาสุดเสียงว่า “หากพวกเขาได้ไปโรงพยาบาล ทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้ แม่ของเธอไม่น่าหัวรั้นขนาดนั้น!”
ดาราต้องหนีจากผู้หญิงคนนี้ที่ทำลายชีวิตเขา เขาเก็บข้าวของและจากไปโดยไม่บอกลา
วิ่งหนีความโกรธ
ดาราเดินทางไปยังเมืองหลวงเพื่ออาศัยอยู่กับมาลี น้องสาวของเขาและเทรย์ สามีของเธอ คืนนั้น เขานอนคนเดียวและนอนไม่หลับ ความโกรธติดตามเขาเหมือนเมฆสีดำ ในหัวเขามีเพียงเรื่องเดียว
โชคดีที่ดาราได้มีเวลาแห่งความสงบช่วงสั้น ๆ ตอนที่เขาอยู่กับครอบครัวของน้องสาวในช่วงเย็น หลัง ทานอาหารร่วมกัน ทุกคนร้องเพลงอันไพเราะ และเทรย์ ก็เล่าเรื่องราวต่าง ๆ เรื่องที่เทรย์เล่าค่อนข้างแตกต่างจากตำนานและนิทานในวัยเด็กของดารา เรื่องราวเหล่านั้นมาจากหนังสือคริสเตียนอันศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่าพระคัมภีร์ ดาราไม่เคยได้ยินเรื่องราวของพระเจ้าผู้เมตตา ที่ทรงสร้างโลกให้เป็นสรวงสวรรค์ที่สงบสุขอย่างสมบูรณ์ เขาได้เรียนรู้ว่ามนุษย์กลุ่มแรกได้ก่อกบฏต่อพระผู้สร้างโดยคิดว่าพวกเขาจะมีความสุขมากขึ้นเมื่อดำเนินชีวิตตามทางของตนเอง การตัดสินใจผิดของมนุษย์ครั้งนั้นได้นำพาความชั่วร้าย ความทุกข์ทรมาน และความตายมาสู่โลกที่สมบูรณ์แบบ
อยู่มาวันหนึ่ง ดาราได้เล่าเรื่องความโกรธที่เขามีต่อแม่ยายให้เทรย์ฟัง เขาเล่าว่าเขาทรมานกับความขมขื่นและความหดหู่ใจ เทรย์ฟังอย่างเงียบ ๆ ในที่สุดเขาก็พูดว่า “ดารา ผมเข้าใจนะ ผมประสบกับสิ่งเลวร้ายมากมายในช่วงสงคราม แต่ผมก็ได้พบความสงบสุข ความโกรธที่คุณมีไม่สามารถนำพาครอบครัวของคุณกลับคืนมาได้ เหมือนกับถือระเบิดเอาไว้แนบหน้าอก มันจะทำลายคุณเอง!”
ดารายกมืดปิดหน้า “ผมอดไม่ได้” เขาคราง “ผมเคยรักพ่อแม่ของภรรยา แต่ตอนนี้ผมเกลียดพวกเขา ผมไม่มีวันให้อภัยพวกเขา”
ทุ่นระเบิดแห่งความเกลียดชัง
เทรย์พยักหน้า “มนุษย์เราทำไม่ได้หรอก แต่พระผู้สร้างของเราสามารถช่วยคุณได้”
“พระเจ้าเหรอ” ดาราถาม “ผมฟังเรื่องราวของคุณ แต่ผมจะรู้ได้อย่างไรว่ามันเป็นเรื่องจริง แล้วพระเจ้าสามารถช่วยอะไรได้บ้าง”
เทรย์ยิ้ม “คุณได้เรียนรู้จากพระคัมภีร์ว่ามนุษย์คือผู้ที่ทำให้โลกอันสมบูรณ์แบบนี้ยุ่งเหยิง พระเจ้าน่าจะโกรธพวกเขา แต่พระองค์ก็ไม่โกรธ แต่พระองค์กลับทรงรักพวกเขาและเสนอแผนที่จะฟื้นฟูมนุษย์และโลก ยิ่งไปกว่านั้น หากเราอธิษฐานตอนนี้ พระองค์จะทรงสามารถช่วยเราได้ ผมรู้ได้อย่างไร เพราะพระองค์ทรงช่วยผมมาแล้ว ผมจึงไม่ทรมานกับความโกรธอีกต่อไป”
เทรย์พูดต่อว่า “พระเยซู พระบุตรประสูติบนโลกเพื่อให้เราหันใจกลับไปหาพระผู้สร้าง บรรดาผู้นำศาสนาอิจฉาความนิยมของพระเยซูจากคำสอนและการรักษาของพระองค์ พวกเขาวางแผนที่จะฆ่าพระองค์ พวกเขากล่าวหาพระองค์ด้วยความเท็จ เฆี่ยนตี และตอกตรึงพระองค์บนไม้กางเขนจนสิ้นพระชนม์”
“เลวร้ายมาก!” ดารากล่าวขึ้น
“ใช่ แต่พระเยซูก็ไม่ได้ต่อสู้หรือสาปแช่งพวก เขา พระองค์กลับทอดพระเนตรขึ้นสวรรค์และทรงร้องขอว่า ‘พระบิดาเจ้า โปรดยกโทษให้พวกเขาเพราะพวกเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่’”
“โอ้โห” ดาราพูด “ผมไม่คิดว่าผมจะทำแบบนั้นได้”
“ผมเห็นด้วย” เทรย์ตอบ “ผมก็เคยคิดแบบนั้น เหมือนกัน ผมเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่รู้ไหม ดารา พระเยซูตรัสว่า 'จงรักศัตรูของท่าน อวยพรผู้ที่สาปแช่ง ทำดีกับผู้ที่เกลียดชังและจงอธิษฐานเพื่อบรรดาคนที่ข่มเหงพวกท่าน' (มัทธิว 5:44) พระเยซูไม่เพียงแค่สอนเรื่องนี้แต่พระองค์ทรงทำให้เราเห็นเช่นกัน เมื่อผมคิดถึงสิ่งเหล่านี้และขอการเยียวยาจากพระองค์ ผมจึงเปลี่ยนแปลง”
พลังบำบัดแห่งการให้อภัย
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ดาราได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูและคำสอน เรื่องการรักศัตรู เขาเปิดใจต่อพระผู้เป็นเจ้าและสวดอ้อนวอนตามที่เห็นจากครอบครัวของน้องสาว เขาบอกพระเจ้าเรื่องความโศกเศร้าและความโกรธของเขา เมื่อเขาขอให้พระเจ้ารักษาหัวใจของเขา เมฆดำก็เริ่มลอยออกไปอย่างช้า ๆ
เทรย์สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงนั้น “ผมเห็นว่าพระเจ้ากำลังเปลี่ยนแปลงคุณ” เขาพูดกับดารา “คุณไม่อยากเป็นสาวกของพระเยซูหรือ”
ดารายิ้ม “อยาก พระเจ้ากำลังรักษาผม ผมจะเป็นสาวกของพระองค์ได้อย่างไร”
เทรย์สอนเขาว่าการเป็นสาวกพระเยซูหมายถึงการเข้าร่วมกับสาวกคนอื่น ๆ อธิษฐานและเรียนรู้เกี่ยวกับพระเจ้าและเชื่อฟังคำสอนของพระเจ้าในพระคัมภีร์ สาวกของพระองค์จะเล่าเรื่องราวที่พระองค์ได้เปลี่ยนแปลงพวกเขาและเชื้อเชิญให้ผู้อื่นสัมผัสพลังอำนาจของพระองค์ สาวกของพระเยซูได้รับคำมั่นสัญญาว่าวันหนึ่งพระองค์จะทรงสร้างโลกนี้ขึ้นใหม่
ดาราจึงตัดสินใจเป็นสาวกพระเจ้าองค์นี้ อยู่มาวันหนึ่งเทรย์เห็นว่าดารากำลังเก็บข้าวของ "คุณจะไปไหนเหรอ" เขาถามด้วยความสงสัย
“ผมจะกลับไปที่หมู่บ้านของภรรยา” ดาราบอก “ผมต้องการบอกพวกเขาว่าผมยกโทษให้พวกเขา! และผมจะแบ่งปันความหวังใหม่ที่ผมมี”
หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวที่พระเยซูสามารถช่วยคุณเอาชนะความโกรธ ความขมขื่น หรือความซึมเศร้า โปรดติดต่อเราตามข้อมูลด้านหลังเอกสารฉบับนี้
Copyright © 2023 by Sharing Hope Publications. สามารถพิมพ์และแชร์งานชิ้นนี้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตพระคำภีร์นำมาจากพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ (Thai Bible King James Version) ลิขสิทธิ์ © 2003 โดย Philip Pope ใช้ตามที่ได้รับอนุญาต สงวนลิขสิทธิ์ทุกประการ
ลงทะเบียนเพื่อรับจดหมายข่าวของเรา
รู้คนแรกเมื่อมีสิ่งพิมพ์ใหม่ ๆ!

ค้นหาผู้ชมของคุณ
สิ่งพิมพ์พิเศษ
© 2023 Sharing Hope Publications